อีกหนึ่งภาพยนตร์ไทยเรื่องแนวรักโรแมนติกคอมเมดี้อย่าง Long Live Love! ลอง ลีฟ เลิฟว์ ที่จะมาพาทุกท่านไปนำเสนอการผสมผสานที่แปลกใหม่ของความตลกและความเศร้าปนดราม่านิดๆ ฮาหน่อยๆ โดยมีนักแสดงนำที่น่าสนใจมากมายอย่างพระเอกหล่อ ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ และนางเอกสวยตัวแม่ ชมพู่ อารยา เอ. ฮาร์เก็ต พร้อมกับทัพนักแสดงมาสร้างสีสัน ซึ่งพล็อตเรื่องโดยรวมสนุกกลมกล่อมกำลังดีเลย ครบรสหลากอารมณ์ เราลองมาดูรายละเอียดดีเทลต่างๆ กันดีกว่า
Long Live Love! (2023) ลอง ลีฟ เลิฟว์ จะเล่าถึงเรื่องราวความรักที่เริ่มจะจืดลงของ สติ (แสดงโดย ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์) และ เมตตา (แสดงโดย ชมพู่ อารยา เอ. ฮาร์เก็ต) ที่แต่งงานกันมานานกว่าทศวรรษแล้ว และมีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคนชื่อ นะโม (แสดงโดย เบ็คกี้ อาร์มสตรอง) แต่ความสัมพันธ์ของสติและเมตตาใกล้ถึงจุดจบ เมื่อสติเริ่มละเลยความรับผิดชอบของพ่อบ้านและทำตัวเหลวแหลก จนเมตตาไม่สามารถทนต่อไปได้อีกแล้ว แต่แล้วโชคชะตาได้เล่นตลกกับพวกเขา เมื่อสติประสบอุบัติเหตุและตื่นขึ้นมาพร้อมกับความจำเสื่อม วิธีเดียวที่จะฟื้นความทรงจำของเขาได้คือการถ่ายภาพตามภาพเก่าที่เขาเคยถ่ายไว้ ซึ่งจะช่วยให้เขาหวนกลับไปดูความทรงจำในช่วงเวลาที่ถ่ายภาพเหล่านั้นได้ การฟื้นความทรงจำในครั้งนี้จะพาเขาไปพบกับความผิดพลาดในอดีตที่เคยได้ทำไว้อีกครั้ง
Long Live Love! นั้นแม้ว่าจะไม่ได้มาจากค่ายหนังอารมณ์ดีอย่างจีทีเอช แต่ก็มีกลิ่นอายความสนุกสนานคล้ายคลึงกันไม่น้อยเลยทีเดียว เนื่องจากทีมงานและนักแสดงส่วนใหญ่เป็นศิษย์เก่าจากค่ายที่มาร่วมสร้างสรรค์เรื่องนี้ทั้งนั้น มุก ปิยะกานต์ ผู้กำกับหญิงมากความสามารถ ผู้สร้างชื่อจากซีรีส์ เนื้อคู่ประตูถัดไป กลับมาพร้อมผลงานใหม่ที่เธอทั้งกำกับและร่วมเขียนบทเอง โดยนำเสนอเรื่องราวความรักในมุมมองที่แปลกใหม่และค่อนข้างจะออกแนวเจ็บๆ ปวดๆ กันเลยทีเดียว เป็นมุมความรักที่ไม่ค่อยปรากฏในเรื่องทั่วไป ซึ่งก็ถือเป็นการสร้างความแตกต่างและแปลกใหม่ดีเลย
ต้องบอกว่านี่อาจไม่ใช่หนังกระแสหลักที่เน้นการเดินเรื่องตามสูตรสำเร็จทั่วไป แต่กลับเป็นหนังรักไทยที่แตกต่างแถมยังทำออกมาได้ดีด้วย ทั้งองค์ประกอบที่แปลกใหม่ เซอร์ไพรส์ และความอินดี้ บวกกับบทภาพยนตร์ที่ถือเป็นจุดเด่นที่น่าประทับใจอย่างมาก เป็นเรื่องที่หายากสำหรับหนังไทยที่จะได้รับคำชื่นชมแบบนี้ เห็นได้ชัดว่านี้มีการวางโครงเรื่องและจัดลำดับส่วนต่างๆ อย่างมีระบบ จึงทำให้การเล่าเรื่องดำเนินไปอย่างลื่นไหล แม้ว่าจะมีบางส่วนที่ยังไม่สมบูรณ์ขาดๆ เกินๆ ไปบ้าง เช่น ยังมีบางฉากที่ยืดยาวไปหน่อยและไม่กระชับกว่านี้ แต่โดยรวมแล้วถือว่าฟอร์มดีกว่าหลายเรื่องอยู่เหมือนกัน
อีกอย่างที่ต้องชมคือทีมนักแสดงคุณภาพที่เลือกได้เข้ากับบทของตัวละครในภาพยนตร์เรื่องนี้อย่าง ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ ที่ยังคงมีคาแรคเตอร์ด้วยเสน่ห์และทักษะการแสดงที่เป็นเอกลักษณ์ แม้ว่าคาแรกเตอร์กวนโอ๊ยแบบนี้จะคล้ายคลึงกับบทก่อนๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เชยหรือเบื่อไปจากเดิมเลย ในขณะเดียวกันแม่ ชมพู่ อารยา ก็กลับมาโลดแล่นบนจอเงินอีกครั้งหลังจากห่างหายไประยะหนึ่ง ซึ่งได้เลือกบทบาทนี้เป็นการคัมแบ็กที่เหมาะสมกับเธอจริงๆ แถมเปิดโอกาสให้เธอได้แสดงฝีมืออย่างเต็มที่ นี่คือหนึ่งในบทบาทการแสดงที่โดดเด่นที่สุดของชมพู่ และไม่น่าแปลกใจหากเธอจะได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมในช่วงปลายปีนี้
ด้านงานสร้างและการถ่ายทำของ Long Live Love! บอกเลยว่าทั้งโดดเด่นด้วยการใช้สัญลักษณ์และวัตถุในการเล่าเรื่องอย่างดี และมีประสิทธิภาพ องค์ประกอบต่างๆ ออกแบบมาค่อนข้างดีทีเดียว พิถีพิถันและมีการเก็บรายละเอียดอย่างครบถ้วน ซึ่งงานภาพนี้จัดว่าแปลกใหม่และแตกต่างจากหนังไทยทั่วไป เพราะมีการออกแบบมุมกล้องและมุมมองที่สอดคล้องกับการตัดต่อและลำดับเรื่องได้อย่างลงตัว แถมทางดนตรีประกอบในเรื่องก็ออกแบบมาดีอีกด้วย มีช่วงที่ใช้ซาวด์นำเครื่องดนตรีเซิ้งอีสานมาเป็นลูกเล่น แม้ว่าจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับธีมอีสานโดยตรง แต่ก็เข้ากันได้ดีซะอย่างนั้น
สรุปโดยรวมได้ว่า Long Live Love! เป็นหนังไทยในปี 2024 หนึ่งเรื่องเลยที่สามารถสร้างความประหลาดใจกับคนดูได้ในหลายแง่มุม แม้ว่าจะรับชมแบบไม่คาดหวังใดๆ กลับถือว่าสนุกดีและก็พอใจในระดับหนึ่งที่ไม่เพียงแค่เป็นหนังรัก แต่ยังสอดแทรกประเด็นครอบครัวที่ซับซ้อน มีความดราม่า คอมเมดี้ บทก็ดีช่วยเสริมการแสดงจากนักแสดงระดับแนวหน้า เทคนิคต่างๆ ผสานกันอย่างลงตัว จนได้รสกลมกล่อมของหนังไทยแบบใหม่ๆ ที่น่าสนใจ และหาดูได้ยากในวงการหนังไทยอีกด้วย ใครที่อยากทราบว่าเป็นอย่างไร จะถูกจริตมากน้อยแค่ไหนต้องลองไปติดตามรับชมกัน